ไขมันพอกตับ (fatty liver) เป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพอย่างมากแต่คนไม่ค่อยตระหนัก ทั้งนี้เพราะไขมันพอกตับไม่ได้เป็นสาเหตุการตายโดยตรง แต่เป็นตัวเร่งการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง
โรคไขมันพอกตับ คือ การมีไขมันไปสะสมอยู่ในเซลล์ตับ ปกติอาหารไขมันที่ร่างกายได้รับจะถูกเผาผลาญที่ตับและเนื้อเยื่อต่างๆ แต่เมื่อร่างกายได้รับไขมันเกินความต้องการ ไขมันส่วนเกินจะถูกสะสมในรูปเนื้อเยื่อไขมัน เนื้อเยื่อไขมันจะค่อยๆ สะสมในตับของบุคคลที่รับประทานอาหารซึ่งมีไขมันในปริมาณที่มากเกินกว่าร่างกายจะจัดการได้ อีกสาเหตุของการมีไขมันสะสมในตับ คือ การที่ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนไขมันให้อยู่ในรูปที่ถูกกำจัดออกได้ เมื่อตับมีไขมันสะสมอยู่มากกว่า 5% บุคคลนั้นจะเป็นโรคไขมันพอกตับ ซึ่งโดยปกติผู้ป่วยจะไม่มีอาการ แต่บางรายอาจรู้สึกไม่สบายบริเวณใต้ชายโครงขวา อ่อนเพลีย นั่นคือโรคนี้ค่อยๆ พัฒนาขึ้น และตับที่มีไขมันสะสมอยู่จะง่ายต่อการเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นผลจากการอักเสบและเกิดแผลเป็นในเนื้อตับ
โรคไขมันพอกตับ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ โรคไขมันพอกตับที่มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ (Alcoholic fatty liver disease , AFLD) และ โรคไขมันพอกตับที่มิได้มีสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic fatty liver disease, NAFLD)
ยาที่มีรายงานว่าสามารถทำให้เกิดไขมันพอกตับ คือ พาราเซทามอลในขนาดสูง แอสไพริน คอร์ติโคสเตียรอยด์ ยาต้านซึมเศร้าและยารักษาโรคจิตบางชนิด valproate, 5-FU, irinotecan, cisplatin, L-asparaginase, griseofulvin corticosteroids, , amiodarone, methotrexate, tetracycline ขนาดสูง ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, warfarin, tamoxifen, , ยาต้านเอดส์กลุ่ม NRTIs (เช่น stavudine, zidovudine, didanosine) , Nonsteroidal anti-inflammatory drugs (ibuprofen, naproxen), Cocaine, diltiazem, warfarin , วิตามิน เอ ขนาดสูง, Perhexiline maleate
หน้าที่เข้าชม | 314,848 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 246,920 ครั้ง |
เปิดร้าน | 29 ก.พ. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 |